NC #พี่จูบ PART XIX
PART XIX
“พี่แทยง เห้ยพี่! ตื่น”
เสียงเรียกพร้อมแรงสะกิดทำเอาคนเผลอหลับฝันนึกถึงวันวานเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ
“อ่าวโดยอง” เมื่อเห็นว่าคนที่เรียกเป็นใครจึงส่งยิ้มให้
“ยังจะมาเรียก พี่มานอนเล่นอะไรตรงนี้เนี่ย
กลัวคนไม่รู้รึไงว่าเป็นพวกจรจัดอ่ะ” ปากคอยังคงเราะร้ายเสมอต้นเสมอปลาย
แต่มันกลับทำให้คนโดนว่าหัวเราะได้
“พี่แค่รอ” คิ้วกระต่ายเลิกขึ้น
“หมายถึงเตนล์ให้มารอตรงนี้?” ส่ายหัวเป็นคำตอบ “อ่าว อะไรวะงง”
“แม่กับน้องสาวของเตนล์มา”
“มาแล้วไง ทำไมพี่ต้องมารอตรงนี้ เจอครอบครัวแฟนมันไม่ดีรึไง?”
“พวกเขาไม่ยอมรับเรา...”
ใบหน้าของรุ่นพี่ที่แสดงออกมาราวกับทุกอย่างที่เจ้าตัวรักกำลังจะมลายหายไปจากโลกใบนี้
“ใจเย็นนะพี่ ผมว่าสุดท้ายพวกท่านต้องเข้าใจและยอมรับได้
แค่มันอาจจะยังไม่ใช่ตอนนี้”
“พี่ก็หวัง...ว่ามันจะเป็นแบบนั้น”
โดยองถอนหายใจมองรุ่นพี่ที่เคยมั่นใจและมีออร่าความกวนเสมอด้วยความเป็นห่วง
จะไม่ให้ห่วงไงไหวดูหน้าเจ้าตัวตอนนี้สิ สายตาทอดมองไปบนตึกสูงแน่นอนว่าจุดหมายมันอยู่ที่ระเบียงห้องของเขากับเพื่อนตัวเล็กคนรักของเจ้าตัว
คิ้วของแทยงขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นว่ามีคนเดินออกมาตรงระเบียง
ก่อนรอยยิ้มจะปรากฏเมื่อเห็นว่าเป็นเจ้าตัวเล็กของเขาที่ออกมาพร้อมกับคุน
เขาไม่รู้หรอกว่าทั้งสองกำลังคุยอะไรกัน แต่การที่เห็นเตนล์กำลังร้องไห้มันทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดเหลือเกิน
เขามองคุนที่กำลังโอบกอดปลอบประโลมลูบแผ่นหลังของคนรักด้วยความอิจฉา
ที่ตรงนั้นควรเป็นเขา และเหมือนคนกอดจะรู้ว่ามีคนมองอยู่จึงผลักออก
เอ่ยบางอย่างกับเตนล์ ก่อนเจ้าตัวจะหันมองลงมา ดวงตาสวยเบิกกว้างแต่ไม่รู้ทำไมแทยงถึงเลือกที่จะยิ้มส่งไปให้กับคนด้านบน
ริมฝีปากบางขยับเอื้อเอ่ยช้าๆอย่างไร้เสียง
และนั่นทำให้คนที่ไร้เรี่ยวแรงพร้อมจะสู้ต่อไป ไม่ว่าจะเจออุปสรรคมากมายแค่ไหก็ตาม
แค่คำว่า ‘ผมรักพี่นะ’
รอยยิ้มกว้างที่มาจากใจไม่ใช่ฝืนยิ้มเพื่อให้อีกคนสบายใจอย่างในทีแรก
ปากหนาขยับตอบกับในสิ่งเดียวกัน ‘พี่รักเรามากกว่า’
ร้อยยิ้มที่สดใสกลับสู่ใบห้าสวย
แม้จะมีน้ำตาแต่มันก็ทำให้คนมองสบายใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง
เราสบตากันอยู่แบบนั้นเนิ่นนาน ก่อนคุนจะสะกิดแล้วทั้งสองก็กลับเข้าห้องไป
“เอาไงครับพี่ จะรออยู่ตรงนี้ถึงพรุ่งนี้เลยไหม?”
“อืม”
“เอาจริง!?” พยักหน้าเป็นคำตอบให้รุ่นน้องเพื่อยืนยัน
เขาจะรอๆจนกว่าจะรู้จริงๆว่าเตนล์สบายใจ “งั้นเดี๋ยวผมช่วย”
เลิกคิ้วมองรุ่นน้องเพื่อนสนิทคนรักที่ส่งยิ้มกว้างจนเห็นเงือก
แต่มันกับดูไม่น่าเกลียดเลยสักนิด เจ้าตัวยักคิ้วให้หนึ่งที บอกให้ผมไปหาที่หลบแล้วจึงหายเข้าไปในหอพัก
ผมไม่ได้ทำตามที่โดยองบอกตอนนี้ผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมงได้
สายตาผมหันไปเห็นน้องสาวของเตนล์เดินออกมาจากตึก
ผมรีบกระโดดข้ามม้านั่งตรงเข้าพุ่มไม้ด้านหลัง
แม่และน้องของคนรักเรียกแท็กซี่และขึ้นรถออกไป
แน่นอนผมไม่เห็นเตนล์เห็นเพียงโดยองและคุนที่ลงมาส่ง
“ออกมาได้แล้วพี่” เสียงเรียกของรุ่นน้องเรียกให้ผมลูกออกมาจากพุ่มไม้
“เตนล์ร้องไห้จนตาบวมหมดแล้ว”
ใจผมกระตุกวูบเมื่อได้ยินสิ่งที่คุนพูดออกมา
“พี่อยากเจอเตนล์” อยากจะกอด อยากจะปลอบ
และอย่าจะเอ่ยคำพูดมากมายให้คนรักได้รับรู้
“เดี๋ยวก็ลงมา” สิ้นคำพูดโดยองร่างบอบบางวิ่งออกมาจากตึกพุ่งตรงเข้ามาหาผม
ก่อนกระแทกอ้อมกอดเข้ามาเล่นเอาเซไปก้าวหนึ่ง แขนเล็กกระชับกอดเอวผมแน่น
ผ่อนลมหายใจออกช้าๆ สวมกอดตอบกลับไปพร้อมกับลูบกลุ่มผมนุ่มเบาๆ
“แม่จะพาเตนล์กลับ” เสียงที่เอ่ยออกมาเบาเหลือเกิน
“เตนล์กลัว..กลัวว่าจะไม่ได้กลับมาหาพี่...กลัวต้องไปจากพี่...อีกครั้ง”
ผมเสียใจที่ได้ยินสิ่งที่เตนล์บอก
มันไม่ใช่แค่เจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนที่กลัว ตัวผมเองก็กลัว
“อย่ากลัว” ผมจับไหล่เขาเจ้าตัวขยับตามแรงดันของผม
ใบหน้าสวยตอนนี้แดงก่ำยิ่งปลายจมูกยิ่งแดงจัด ดวงตาที่เคยวาวใสด้วยความสุข ตอนนี้กลับถูกบดบังด้วยน้ำตา
ผมจ้องลึกลงไปเพราะอยากให้เตนล์รับรู้ว่าผมไม่มีทางปล่อยเขาไปอีกแน่นอน
“จำไว้นะตัวเล็ก พี่จะไม่ปล่อยเราไปอีกแล้ว ถ้าเตนล์กลับมาหาพี่ไม่ได้
พี่จะไปหาเราเอง พี่สัญญา”
จบคำพูดผมใช้มือประคองใบหน้าน้อง ก้มลงจูบหน้าผากมนต์นั้น
ไล้ลงมาที่ดวงตาทั้งสอง เจ้าตัวหลับตารับสัมผัส
ผมหวังว่าเตนล์จะรับรู้ความรู้สึกของผมในตอนนี้ อยากให้เขาเชื่อในตัวผม
เชื่อในความรักของเรา
“ทานโทษนะครับ แต่ไม่ทราบว่าลืมอะไรไปไหม
ว่าไม่ได้อยู่กันสองคนตรงนี้?” เสียงแขวะจากโดยองทำเอาเตนล์สะดุ้งน้อยๆ
ก่อนหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อน และนั่นทำให้เกิดเสียงหัวเราะและรอยยิ้มตามมา
“วันนี้เป็นวันเกิดพี่ ผมอนุญาตให้พี่พาเตนล์ไป
แต่ช่วยพากลับมาก่อนพรุ่งนี้สี่โมงเย็น”
คุนหันไปบอกรุ่นพี่ที่จนบัดนี้เขาก็ยังไม่ค่อยชอบหน้าเท่าไหร่
แต่การได้เห็นรอยยิ้มของเตนล์ แค่นั้นมันพอแล้วสำหรับเขา
“ดูแลเพื่อนผมดีๆนะพี่” โดยองตบไหล่ผมสองที ก่อนหันไปควงแขนคุน
กลับเข้าหอพักไป
“ไปบ้านพี่ไหม?” หันไปถามคนรักที่ยืนกอดตัวเอง
ผมได้แต่ส่ายหน้าทั้งที่อากาศข้างนอกหนาวขนาดนี้ยังจะใส่แค่เสื้อยืดตัวบางออกมา
ผมถอดฮู้ดตัวหนาที่สวมอยู่ตวัดคุมรอบตัวคนข้างกาย เจ้าตัวช้อนตามองผมด้วยรอยยิ้มก่อนตอบคำถามที่ทำเอาผมอยากจับเจ้าตัวมาฟัดซะตรงนี้
“ไปที่ไหนก็ได้ ที่มีเจ้ามอมแมมอยู่”
“หยุดน่ารักสักนาทีจะได้ไหม แค่นี้พี่ก็รักเราจะตายอยู่แล้ว”
ประโยคธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาจากปากของแทยง
ทำเอาพวงแก้มที่เพิ่งจะหายแดงจากอาการร้องไห้ เห่อร้อนขึ้นมาอีกครั้ง
ไหนจะสายตาที่มองลงมาด้วยความเจ้าเล่ห์นั่นอีก
“ผมก็รักพี่จะตายอยู่แล้วเหมือนกัน”
เอาเลยครับ!! ฟ้าจะฝ่า พายุจะเขา หรือใครจะมาตีหัวลี
แทยงคนนี้ให้ตายไปเลยตอนนี้ก็ได้
แต่บอกเลยครับสิ่งที่ฆ่าผมได้ดีที่สุดคือประโยคเมื่อกี้จากคนตัวเล็กที่ก้มหน้างุดหลบสายตาผมอยู่ตอนนี้
ไม่ไหวครับจับผมที ผมจะล้ม...
บอกตรงๆผมเครียดเรื่องครอบครัวเตนล์นะ
แค่ประโยคบอกรักที่วันนี้ผมได้รับมันถึงสองครั้ง
ครั้งแรกแม้จะไม่ได้ยินมันก็ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ
แต่ครั้งนี้มันดังก้องชัดเต็มสองหูและซึมลึกเข้ามาในความทรงจำ
“พี่ปล้ำตรงนี้เลยได้ไหม?” เจ้าตัวเล็กเงยหน้าทำตาโตใส่
ก่อนฟาดมือเข้าที่แขนผม เจ็บใช่เล่น
แต่ได้เห็นอาการเขินของเจ้าตัวก็ถือว่าคุ้มอยู่
“อยากขี่หลัง” ผมเลิกคิ้ว ปากบางเบะน้อยๆช้อนตามองผม
แบบนี้มันแอดแท็กสุดๆ
ลูกอ้อนแบบนี้มันคือเจ้าตัวเล็กของผมจริงๆเชื่อสิว่าเดี๋ยวจะต้องตามมาด้วยเกาะแขนแล้วเอาหน้ามาซบ
เขารู้ว่าวิธีนี้จะทำให้ผมใจอ่อน เพราะเข้าใช้ไม้นี้มาตั้งแต่เด็กนั่นไงทำจริงๆ
“น้า..นะ ของผมขี่หลังหน่อยนะพี่แทยง”
อ้อนขนาดนี้ขี่คอพี่ก็ยอมครับ
ผมย่อตัวลงเตนล์ไม่รอช้ากระโดดขึ้นหลังจนผมเซหน้าเกือบทิ่ม
เห็นตัวเล็กๆหนักไม่ใช่เล่นเหมือนกัน แต่เอาเถอะแค่นี้สบายให้แบกทั้งชีวิตก็ยอม
ตลอดทางไม่มีบทสนทนาใดๆ มีเพียงอ้อมแขนที่โอบกระชับรอบคอผม
และลมหายใจอุ่นที่เป่ารดแก้มขวา ผมรู้ว่าเตนล์กำลังมองผมอยู่เงียบๆ
อีกแค่ช่วงถนนเดียวก็จะถึงบ้านผมแล้ว
วันนี้แม่เตรียมทุกอย่างไว้รอ เพราะผมบอกท่านว่าจะพาเตนล์มาฉลอง
ตอนแรกก็กลัวว่าจะไม่ได้พาเจ้าตัวมาหลังจากเจอกับครอบครัวเขา
แต่ถือว่าสวรรค์ยังเข้าข้าง
ผมคิดว่าวันนี้คงมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกับแม่
พอมาถึงหน้าบ้านเตนล์ก็โดดลง ดีที่ไม่ล้มลงไปด้วยกันทั้งคู่ พอหันไปมองเจ้าตัวดีส่งยิ้มแห้งมาให้
“มากันแล้วเหรอจ๊ะ เข้ามาสิแม่เตรียมของไว้เยอะเลย”
พอเข้ามาด้านในทั้งผมและเตนล์อดแปลกใจไม่ได้ สมาชิกไม่ได้มีแค่แม่ที่รออยู่
แต่กลับมีคนที่เรียกได้ว่าเป็นพ่อและน้องสาวของผมนั่งอยู่ด้วย
“พี่เตนล์~” เธอวิ่งตรงมาเกาะแขนคนข้างกายผม
ออกแรงดึงให้เดินตามไป ใบหน้าหวานหันมองผมแต่ก็ยอมเดินไปโดยดี
“เอ้าตามน้องไปสิ ยืนทำอะไรอยู่” แม่ตีไหล่ผมแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะ
บอกตรงๆว่าผมไม่เคยฉลองวันเกิด โดยที่โต๊ะอาหารมีคนอื่นนอกจากแม่มาก่อน
เพลงอวยพรวันเกิดดังขึ้นพร้อมกับคำอวยพรและของขวัญ
ผมมองหน้าของคนรักที่นั่งอยู่ตรงข้ามเป็นระยะ และมักจะได้รับรอยยิ้มกว้างกลับมาเสมอ
วันเกิดปีนี้ผมมีความสุขที่สุดจนอยากให้มันเป็นแบบนี้ทุกๆปี
หลังจากทานมื้อค่ำกันเสร็จแทยงพาเตนล์ขึ้นมาที่ห้อง
บอกให้เจ้าตัวอาบน้ำและหาเสื้อผ้าในตู้ใส่ได้เลย
ก่อนขายาวจะพาตัวเองลงมาหาแม่เพื่อขอความเห็นจากเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้
“แม่ครับ” ร่างบอบบางของหญิงวัยกลางคนเอียงมองลูกชายที่สวมกอดตนจากด้านหลัง
มือซึ่งกำลังเก็บข้าวของอยู่หยุดลง
“มีอะไรหื้อ?” ใบหน้าหล่อซุกลงกับไหล่ของแม่
“วันนี้ผมเจอครอบครัวเตนล์” พูดได้เท่านั้นก็เงียบไป
มือของผู้เป็นแม่ยกขึ้นลูบกลุ่มผมของลูกชาย เธอรู้ว่าถ้ามันเป็นเรื่องที่ดีลูกชายเธอจะไม่เป็นแบบนี้
“พวกเขาไม่ยอมรับเรา”
“แทยง” เอ่ยเรียกพร้อมพลิกตัวในอ้อมแขนลูกชายเพื่อหันมาเผชิญหน้ากัน
“ฟังแม่นะลูก ความรักมันเกิดขึ้นกับคนสองคนก็จริง
แต่สุดท้ายแล้วครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”
“ผมรู้ครับ แต่ครอบครัวเตนล์...”
“ลูกแค่ต้องใช้เวลา เพื่อพิสูจน์ตัวเอง แต่ลูกจะพยายามคนเดียวไม่ได้
เรื่องนี้เตนล์มีส่วนสำคัญมากที่สุด” ดวงตาของผู้เป็นแม่เหลือบเห็นเงาตรงบันได้
เธอรู้ได้ทันทีว่ามีคนกำลังแอบอยู่ จึงดึงมือลูกชายให้เดินตาม
เตนล์มีสีหน้าตกใจไม่น้อย ดวงตาสวยเบิกขึ้นนิดๆ คนเป็นแม่เอื้อมมืออีกข้างจับมือบางของคนที่ยืนอยู่บนขั้นบันไดมาวางทับมือใหญ่ของลูกชาย
เธอส่งยิ้มให้ทั้งสองก่อนพูดต่อ
“จับมือกันไว้ให้แน่นนะลูก
กำลังใจเป็นเรื่องสำคัญหนูอย่าทิ้งลูกชายแม่นะลูก
ช่วยเชื่อในตัวลูกชายแม่เหมือนที่แม่เชื่อว่าสักวันเขาจะทำให้ครอบครัวหนูยอมรับเขาได้”
“ผมเชื่อในตัวพี่แทยงครับ
เชื่อมาตั้งแต่แรก แล้วก็จะเชื่อตลอดไป”
สองสายตาสบประสานกัน ไม่มีใครเอ่ยคำพูดใดออกมา
มีเพียงแค่มือใหญ่ที่กระชับบีบแน่นเข้ากับมือบอบบาง ริมฝีปากยกยิ้มให้กัน
ผู้เป็นแม่เดินกลับขึ้นห้องไปเงียบๆ ปล่อยให้เด็กทั้งสองได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
“ผมไม่มีของขวัญให้พี่เลย” ร่างบางในอ้อมแขนเงยขึ้นมาสบตา
หลังจากที่ปรับความเข้าใจกัน
ว่าทุกอย่างต้องใช้เวลาทั้งสองจึงกลับเข้าห้องชำระร่างกายแล้วมานอนกอดกันบนเตียง
โดยมีภาพยนตร์เรื่องโปรดที่แทยงเปิดไว้
ใบหน้าหลล่อก้มลงสูดดมกลิ่นหอมจากกลุ่มผมนุ่มของคนในอ้อมแขน
“เราเคยให้พี่แล้ว” คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน
แทยงเอี้ยวตัวไปที่หัวเตียงหยิดกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินมาเปิดออก
สร้อยคอเส้นหนึ่งปรากฎแก่สายตา
“ยังเก็บมันไว้ด้วยเหรอครับ ผมคิดว่าพี่ทิ้งมันไปแล้ว”
เอ่ยออกมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ จนคนมองอดจะบีบจมูกรั้นนั่นไม่ได้
“พี่กลัวหายเลยเก็บไว้แบบนี้ รอคนให้กลับมาใส่มันให้พี่อีกครั้งไง” คนฟังกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่คว้าสร้อยจากมือใหญ่มาถือขยับตัวลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ
แทยงยกยิ้มแล้วลุกมานั่งเผชิญหน้ากับคนตัวเล็ก
“หันหลังสิครับ แบบนี้จะใส่ได้ยังไง” เลิกคิ้วเอ่ยเสียงดุ
“ตอนเด็กก็หันหน้าใส่ให้พี่นี่ ตอนนั้นแค่ให้พี่หลับตาเอง พี่จำได้”
ปากบางเบะใส่คนพี่
“งั้นก็หลับตาสิครับ”
“ไม่หลับ ครั้งนี้พี่อยากมองเรา” คราวนี้ปากบางเม้มแน่น แต่สุดท้ายก็แพ้สายตาอ้อนๆของคนพี่
เตนล์เปลี่ยนมานั่งคุกเข่าขยับตัวโน้มเข้าหาแทยง ก่อนจะสบดวงตาเจ้าเล่ห์ ทันใดนั้นเอวบางถูกรวบจนเซถลาเข้าหาคนพี่
แขนเล็กใช้ค้ำไหล่หนาทั้งสองข้างเพื่อพยุงตัว มือใหญ่ย้ายจากเอวมาจับต้นขาเล็กให้แยกออกนั่งคร่อมทับบนตัก
“ทำอะไรเนี่ย” แก้มเนียนขึ้นสีเรื่อจนอดไม่ได้ที่จะฝังจมูกลงไป
แน่นอนมือบางตีไหล่คนทำไปที แต่นอกจากเจ้าตัวจะไม่สะทกสะท้านแล้วยังยิ้มพอใจอีกด้วย
“หอมจัง”
“เดี๋ยวเหอะ จะใส่ไหมสร้อย”
ส่งสายตาดุราวแมวน้อยมองแบบนี้แทยงคงจะกลัวหรอก
“ใส่สิครับ จะได้คู่กันสักที กับสร้อยเส้นนี้บนคอของเรา”
ไม่พูดเปล่าใช้มือข้างหนึ่งลูบลำคอขาวลงมาบนสายสร้อยที่ประดับอยู่
ปลายนิ้วไล้ตามสายสร้อยลงมาจนถึงจี้ซึ่งเป็นวงแหวนสีเงิน
เตนล์ยกยิ้ม มือบางแกะข้อต่อของสร้อยวาดแขนโอบรอบคอแทยง
กลิ่นหอมจากลำคอขาวทำให้เขาต้องกดจมูกลงไปสูดดม
“งื้อ~ มันจั๊กจี้”
เตนล์หดคอหนีทันทีที่ใส่สร้อยให้คนพี่เสร็จ ร่างบางทำท่าจะลุกออกจากตัว
แต่ไม่ทันอ้อมแขนแกร่งที่คว้ากอดกระชับเอวบางจนลำตัวแนบชิดไม่มีช่องว่าง
“รู้ไหมพี่อยากทำอะไร”
ดวงตาสวยกระพริบมองใบหน้าหล่อที่ยามนี้เจ้าเล่ห์เหลือเกิน
มือบางยกขึ้นบีบจมูกคนพี่ก่อนที่จะถูกมือใหญ่ปัดทิ้ง
“อ๊ะ!”
แทยงดันเตนล์ลงไปกับเตียงพร้อมคร่อมทับร่างบอบบางนั่นไว้
สองสายตาประสานสบกัน ต่างฝ่ายต่างรู้ถึงความรู้สึกของกัน
การรอคอยที่แสนยาวนาน กาลเวลาพัดผ่านมาทำให้สองหัวใจได้กลับมาพบเจอ
จนเกิดเป็นความรัก
ดวงตาสวยค่อยๆปิดลง
เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจของคนด้านบนที่ขยับใกล้เข้ามา สัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปาก
อบอุ่นแนบแน่นเหมือนต้องการตอกย้ำความรู้สึกที่อัดอันอยู่ภายใน ขบเม้นน้อยๆ
แต่ไม่รู้เพราะเขาช้าหรือคนข้างใต้ใจร้อนจึงเป็นฝ่ายส่งความหวานเข้ามาในปากเขาแทน
ไม่ได้รุนแรงเร่าร้อน แต่หอมหวานในความรู้สึก
แขนเรียวโอบรอบคอแกร่งกอดรัดคนพี่พร้อมเอียงหน้าตอบรับรสจูบแสนหวาน
เสียงดูดดุนจากการกระทำยิ่งทำให้การหักห้ามใจที่จะไม่ให้มันเกินเลยใกล้หมดลง
“พอ..แค่นี้เถอะ..” ดวงตาสวยฉ่ำปรือมองคนพี่อย่างไม่เข้าใจ
ลมหายใจหอบถี่ ไหนจะอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นมานี่อีก
ไม่ใช่ว่าเตนล์ไม่รู้ว่าแทยงมีอารมณ์ก็ของเขากับของๆพี่แทยงมันแข็งขืนชนกันอยู่ตอนนี้
แต่คนพี่ดันบอกให้พอซะงั้น “พรุ่งนี้แม่เราจะมาหาอีกไม่ใช่รึไง...ถ้าพี่ทำแล้วเรา..”
นิ้วเรียวแตะปิดปากคนที่เอาแต่กังวน เมื่อคิดว่าแทยงคงไม่พูดต่อแล้ว
มือทั้งสองจึงโอบอุ้มใบหน้าหล่อเหลาที่พยายามเสมองไปทางอื่นให้สบตากัน
“คิดว่าผมไม่รู้เหรอว่าพี่เคยจะทำมันแล้วครั้งนึง” แทยงเลิกคิ้ว
“วันนั้นถึงผมจะเมา แต่ไม่ได้ขาดสตินะ เพราะสิ่งที่พี่ทำนั่นแหละผมถึงได้สร่าง”
พูดไปใบหน้าหวานก็แดงใบจนถึงใบหู กับภาพเหตุการณ์ที่คนพี่เคย...(>//<)
“แสดงว่าตอนนั้น...”
“ครับผมแกล้งอ้วกใส่พี่..แหะๆ”
“พี่ว่าไม่แกล้งนะเต็มตัวพี่เลย แต่ถึงวันนี้พี่จะอยากทำมันกับเตนล์ แต่พี่ว่า...”
ยังไม่ทันที่แทยงจะพูดจบประโยค แขนเรียวยกขึ้นโอบรัดรอบคอเขาอีกครั้งพร้อมกับ
เสียงหวานของคนใต้ร่างที่ทำให้ความอดทนของเขาหมดไปทันที
“ทำเถอะ
ผมอยากเป็นของพี่ทั้งตัวแล้วก็หัวใจ”
“งั้นพรุ่งนี้ถ้าลุกไม่ไหว อย่าโทษพี่แล้วกันนะครับตัวเล็ก”
เมื่อจบประโยคริมฝีปากทั้งสองประกบแนบแน่น แลกเปลี่ยนสัมผัสของกัน
บ๊อกเซอร์ที่อยู่บนตัวถูกทอดทิ้งด้วยมือใหญ่ ขาเรียวยกเกี่ยวกระวัดรอบเอวคนพี่
จูบแสนหวานเริ่มแปลเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน จนแทบหลอมละลาย
ใบหน้าสวยเอียงรับความอุ่นชื้นจากปากของแทยง ลิ้นร้อนไล้เลียจูบซับมุมปากยักที่เผยหอบหายใจ
ก่อนจะเงยขึ้นสบสายตากัน ปลายจมูกคมชนปลายจมูกรั้น เตนล์ในตอนนี้ ดวงตาใสฉ่ำน้ำแก้มเนียนขึ้นสี
ปากเล็กนั้นบวมเจ่อฟันคมแกล้งกัดเบาๆที่ปากล่างของน้อง
“อื้อ! เจ็บ” ตีแขนคนขี้แกล้งไปที
ก่อนจะใช้สองแขนที่โอบรอบคอแกร่งกดคนด้านบนให้ก้มลงมาแล้วกัดปากหนาคืน
“เอาคืนเหรอตัวแสบ”
“อ๊ะ!” มือใหญ่จัดการตรึงข้อมือเล็กทั้งสองข้าง
กดจูบดูดเม้นลำคอขาวจนเกิดรอยแดงเด่นชัด ไล้ขึ้นไปจนถึงหลังหู
ผ่ามือสอดประสานบีบแน่นระบายความรู้สึกวาบหวาม
มือใหญ่คลายปล่อยมือบางข้างหนึ่งสัมผัสนวดคลึงต้นขาอีกข้าง
ลากผ่านเสื้อยืดที่ยังอยู่บนร่าง แต่ไม่สามารถปกปิดตุ่มไตที่กำลังแข็งสู้มือได้เลย
เตนล์เผลอกันปากอย่างลืมตัว ในขณะที่แทยงเงยขึ้นมอง
“อ่า..นายกำลังทำพี่เป็นบ้า” ปากหนากดจูบลงไปเพราะรู้ว่าคนใต้ร่างกำลังกลั้นเสียง
เขาผละจูบออกเพื่อทอดเสื้อของตัวเองและแน่นอน เตนล์เองก็ทำตาม
ทันทีที่ร่างไร้อาภรณ์ปรากฏแก่สายตา ไหนจะรอยจูบบนต้นคอนั่นอีก
เห็นแบบนี้แล้วแค่ที่คอคงไม่พอ เขาอยากให้รอยของเขาอยู่มันทุกที่บนตัวเตนล์
“เลิกมองได้แล้ว”
คราวนี้เป็นแทยงที่ต้องรับสัมผัสจากปากบางซึ่งกำลังดูดเม้นสร้างรอยบริเวณเหนืออกซ้ายของเขา
พอเห็นว่าเกิดรอยแดงจางๆเจ้าตัวเล็กก็ยิ้มกว้างราวกับภูมิใจผลงานของตน
“น่ารักเกินแล้ว” จมูกโด่งฟัดแก้มนุ่มนิ่มของคนรัก
จับต้นขาเรียวให้แยกออกมากขึ้น ตอนนี้เขาแข็งจนมันไม่สามารถอยู่นิ่งได้แล้ว
เอื้อมเปิดลิ้นชักหัวเตียงหยิบทุกอย่างที่จะช่วยบรรเทาความเจ็บให้ร่างเล็กข้างใต้ได้ออกมา
“นี่มัน..ทำไมทะลึ่งแบบนี้!!” เตนลน์ตาโตทันทีเพราะมันไม่ได้มีแค่เจลหล่อลื่นหรือถุงยาง
แต่กลับมีพวกเซ็กทอยไม่ว่าจะเป็นดิวโด้หรือแม้กระทั่งไข่สั่น ร่างบางร้อนไปทั้งตัวไม่ใช่แค่ใบหน้า
“มันช่วยได้ไงครับ รับรองเคลิ้ม”
ปากบางขยับเพราะไม่รู้จะสันหาคำไหนมาพูดดีก่อนมันจะถูกจุ๊บเบาๆ “พี่ไม่ไหวแล้วนะ
นะครับ...น้องเตนล์~”
“เออ! เร็วๆเลย ผมก็อึดอัดจะแย่แล้ว”
แทยงยิ้มกว้างมองใบหน้าสวยที่ขึ้นสีแดงใบจนถึงใบหู เอียงหลบสายตาหันหนีไปทางระเบียง
เจลหล่อลื่นถูกบีบใส่มือใหญ่ ก่อนที่จะถูกนำไปทาบริเวณร่องก้น
เตนล์กระตุกน้อยๆเพราะความเย็น ดวงตาสวยเบิกโตอีกครั้งเมื่อเห็นว่าแทยงหยิบไข่สั่นขึ้นมาทาเจลที่ยังเหลืออยู่ในมือ
“หะ..อ๊ะ!!” ไม่ทันได้เอ่ยท้วง
ขางเรียวข้างหนึ่งโดนจบขึ้นพาดบ่ากว้าง
เจ้าไข่สั่นถูกยัดเข้ามาแต่อาจเพราะขนาดที่ใหญ่พอๆกับนิ้วสองนิ้วทำให้เข้ามาได้เพียงครึ่ง
เตนล์ผวามือบางขย้ำจิกหมอนน้ำตาเล็ด
แทยงวางขาเรียงลงใช้มือนวนครึงบีบเน้นบั้นท้ายน้องเพื่อคลายอาการเกร็ง
โค้งคร่อมจูบซับน้ำตาใสที่หางตาสวย ลงมาที่แก้มนิ่ม ไล้ไปจนถึงปลายคาง
มือใหญ่ค่อยๆดันของเล่นเข้าไปช้าๆจนสำเร็จ
“ฮือ! อ๊ะ!! มัน..อื้ม~ สั่นแรงไป อ่า~” อยากจะตีปากตัวเองทันทีที่เปล่งเสียงน่าอายออกมา
แต่กลับทำให้คนพี่ยิ้มกว้าง ไหนจะสายตาที่กำลังสนุกสนานที่เปล่งประกายออกมานั่นอีก
“อ๊ะ..แกล้ง..ระ เหรอ! อ๊ะ”
เสียงคราวหนาวหลุดออกมาเรื่อยๆ เมื่อเขาผ่อนหนักผ่อนเบาการสั่นของเซ็กทอยในตัวน้อง
ให้ตายเถอะตอนนี้เตนล์โคตรเซ็กซี่!! สะโพกมนต์แอ่นเบียดเสียดส่วนกลางของเขาจนอยากจะดึงของเล่นออกแล้วกระแทกเข้าใส่เตนล์แรงๆ
แต่ก็กลัวจากทำให้น้องเจ็บเกินไป
“จูบ..จูบหน่อย อื้ม~” ได้ตามคำของปากหนาปิดทับลง
แทรงลิ้นมอบสัมผัสให้คนเอ่ยขอ เผลอกดสวิทซ์เร่งแรงสั่นโดยไม่รู้ตัว
ร่างข้างใต้บิดเร้ามือบางจิกไหล่คนพี่ระบายความเสียว “อ๊ะ!”
เตนล์จิกเล็บตั้งแต่ไหล่ไปจนถึงแผ่นหลังคนที่กำลังมอบจูบเร่าร้อนให้กัน
ร่างกายเบียดเสียดจนเหลือช่องว่างเพียงน้อยนิด
ก่อนจะต้องผวาเมื่อเจ้าของเล่นที่อยู่ในร่างกายถูกดึงออก ส่วนกลางลำตัวขยับแตะหน้าท้องแกร่งหลายครั้งเขาอึดอัดจนจะทนไม่ไหว
มือใหญ่สัมผัสเข้ากับแท่งร้อนของน้องกดปิดส่วนหัวที่เริ่มมีน้ำปริ่มออกมา
“อื้ม..ปล่อย..”
“ใจร้าย จะปล่อย..ก่อนพี่เหรอ ฮื้ม?” ไม่พูดเปล่ายังจ่อแท่งร้อนไปที่ก้นนิ่ม
แทยงใช้อีกมือที่ยังว่างคว้าหยิบถุงยางใช้ปากฉีกซองออกและสวมมันอย่างคล่องแคล่ว ก่อนขยับมันแทรกเข้าไปในนตัวเตนล์ช้าๆ
ปากบางถูกเม้นกัดอีกครั้ง น้ำตารื้อขึ้นอย่างไม่อาจห้าม เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ของเล่นแต่เป็นของจริงและมีขนาดใหญ่กว่าของเล่นนั้น
“อ่า..แน่น..ดีจัง”
“ไอ้พี่บ้า! อ๊ะ!” เขาเจ็บจะตายแต่อีกคนกลับปิดทางปลดปล่อยเขา
แถมยังครางอย่างสุขสมที่ได้เข้ามา แทนที่จะสำนึกกลับหัวเราะชอบใจ
เตนล์เบะปากใส่คนที่กำลังคร่อมทับพยายามขยับแทรกเข้ามาในตัว “จะ..เจ็บ อึก!”
“อีกนิดนึง ใกล้เข้าสุดแล้ว อ่า..ดี”
แทยงปล่อยมือที่กดปิดแท่นร้อนของน้อง เปลี่ยนเป็นลากวนบนท้องน้อยแทน
ลากไล้ไปถึงยอดอกสะกิดเล่นเพราะมันแข็งตึงสู้มือ หน้าท้องแกร่งขยับเบียดทับแก่นกายร้อนของคนใต้ร่าง
สะโพกขยับเข้าออกช้าๆและเร่งจะหวะขึ้นตามแรงเร้าของน้อง
แทยงยงกดจูบไปทั่วจากปากนุ่มยุ่น ปลายคาง ลาดไหล่แผ่นอกบาง เน้นขบไปที่ยอดไต อกบางแอ่นรับสัมผัสอุ่นชื้น
ครางกระเซ้าเคล้าเสียงกระทบของร่างกาย
“อ๊ะ!! อ่า..ไม่..ไม่ไหวแล้ว อื้ม~”
แทยงจัดกายรุดแก่นกายน้องเพียงไม่นานยาดน้ำอุ่นก็พุ่งออกมาจนเลอะหน้าท้องของทั้งคู่
“เตรียมตัว อ่า..โดนทำโทษได้เลย คนเก่ง..อื้ม~” แทยงดึงแก่นกายตัวเองออกเล่นเอาร่างบางเสียววาบ
แทยงจัดการพลิกน้องให้หันหลัง
ทันทีที่มือใหญ่ทั้งสองจับยกสะโพกเตนล์จึงรีบชันเข่าเขาไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าคนพี่ต้องการจัดท่ายังไง
แทงยงสอดแท่งร้อนกลับเข้าไปครั้งนี้มันง่ายดาย
จะมีบีบเกร็งบ้างแต่สารหล่อลื่นช่วยได้มากจริงๆ
เขากระแทกมันจากช้าๆและขยับเร็วขึ้นตามความรู้สึกที่อยากจะปล่อย
“อ๊ะ! ตรง..ตรงนั้น แรงอีก อื้ม!!” แทยงยกยิ้มเมื่อส่วนปลายสัมผัสกับจุดกระสัน
จนร่างที่ฝุบหลงกับหมอนครางของร้องมือใหญ่บีบสะโพกเล็กให้ขยับรับแรงที่จะโถมใส่
“อ่ะ..อื้ม เก่ง..คนเก่ง..” แทยงปล่อยมืจากสะโพกเล็กรวบโอบอีกคนขึ้นมา
เตนล์ค้ำตัวกับหัวเตียง และกลายเป็นฝ่ายขยับขึ้นลงบนตัวคนพี่
เสียงครางทุ้มดังมาเป็นระยะ ปากหนาจูบสร้างรอยไปทั่วแผ่นหลังบางมือใหญ่ข้างจัดการชักรูดแก่นกายที่เริ่มขยายอีกครั้งของคนน้อง
ส่วนอีกมือนวดคลึงยอดอกเร่งเสียงครางหวานหู เตนล์เร่งจังหวะขยับจนคนพี่แทบคลั่ง
“อะ..อ่า~~” แทยงจับสะโพกเล็กยกกระแทกขึ้นลงอีกสองสามครั้งให้มันไหลออกมาหมด
แผ่นหลังบางเอนแนบแผ่นอกคนพี่ ทั้งสองรับรู้ถึงแรงหอบหายใจของกัน
ปลายคางคมวางเกยไหล่เล็ก ก่อนงับติ่งหูคนน้อง มือใหญ่ชักรุดแก่นกายที่เริ่มตื่นตัวของเตนล์
“เรายังเหลือของเล่นอีกตั้งหลายอย่างนะตัวเล็ก”
เตนล์หันควับขยับลุกออกจากตัวคนพี่
สะโพกหลุดออกจากแท่งร้อนที่ทาบทับไว้ในตอนแรกหันมองคนพูดพลางส่ายหัวดิก
แทยงยกยิ้มส่งสายตาเจ้าเล่ห์จนเตนล์เสียวสันหลัง
ก่อนคำพูดต่อมาจะทำให้เขาแทบเป็นลม “ได้ไง เสียดายของต้องเล่นให้หมดสิ”
“ไม่..อื้ม!!” ไม่มีทางได้ปฏิเสธใดๆ ปากก็ถูกประกบปิดคำเอื้อเอ่ยต่างๆ
แทยงขอฉลองวันเกิดกับคนร่างบางที่เขารักสุดหัวใจนี้ จนถึงเช้าวันใหม่เลยก็แล้วกัน...
.................................................
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น