BAD RICH 32 (NC)
BAD RICH
32
[ซือเฉิง : ]
เมื่อคืนถึงแม้ว่าผมกับคุนจะไม่ได้ทำอะไรๆกัน แต่ก็ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง
งงป่ะล่ะ ไม่ต้องงงครับถึงมันจะไม่ได้มีอะไรเกินเลยนอกจากจูบเบาๆ ผมก็อิ่มใจสุดๆแล้ว
เราตื่นมาในตอนเช้าแบบเช้ามาก
พอตัดสินใจกันว่าจะขึ้นห้องอาบน้ำและคิดว่าคงจะไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้วแต่ว่า...
“อ๊ะ!! ผม..ม่ะ.ซี๊ด..อ๊ะ พออ๊า~” เชี่ย!! ยังไม่จบอีกเหรอวะ
เสียงที่ได้ยินคงเป็นแจมินไม่ผิดแน่ ไอ้มาร์คแม่ง!! อิจฉาเว้ย!!!!
มันทำกันตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ ไอ้เสียงครางแบบโคตรหมดแรงแบบนั้นผมแบบ..อยากได้บ้าง! พอหันมองคนข้างกายสิ่งที่ได้กลับมาคือสายตาทิ่มแทง
“อย่าแม้แต่จะคิด จะไปอาบน้ำ!!” คุนเดินหนีผมเข้าห้องไป
ทำไมเมียไม่เข้าใจวิน ยังดีที่ห้องอื่นๆเงียบไปแล้ว ค่อยสบายใจหน่อย หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมกับคุนเดินลงไปรอคนอื่นๆที่โต๊ะทานข้าว
หวังว่ามันจะมากินข้าวกันไหวนะ
“จะทานก่อนเลยไหมคะ?” แม่นมของโดยองเอ่ยถาม
“ยังครับ รอคนอื่นๆก่อนดีกว่า”
ผมเองที่เป็นฝ่ายบอกออกไปแบบนั้น ทั้งที่ไม่รู้ว่าต้องรอจนไส้กิ่วรึเปล่า
“โดยองกับแจฮยอนมาแล้ว” คุนทำให้ผมกับคุณป้าหันมองทางที่เจ้าตัวชี้
ซึ่งบอกตรงๆเลยนะว่าออร่าสีชมพูนี่กระแทกเข้าตาผมเต็มๆ
แหม่ไม่บอกก็รู้ว่ามันมีความสุขขนาดไหน โดยเฉพาะไอ้เพื่อนตัวดีของผมนั่นยิ้มปากแทบฉีกถึงหลังหู
“หน้าบานนะครับเพื่อน”
ผมแซวแต่แม่งไม่รู้ร้อนรู้หนาวยักไหล่ใส่อีกต่างหาก ต่างกับโดยองที่นั่งหน้าแดงแจ๋
ผมโดนคุนตีเข้ากลางหลังดังอัก เอาเหอะผมไม่โกรธถือว่าที่ทำนี่เพราะรัก
เมียตีแปลว่ารักมาก
“ไหวไหมเนี่ย!! ดื้อชะมัดบอกว่าให้อุ้มก็ไม่เอา!!”
เสียงของคนที่ชั่วที่สุดในกลุ่มแว่วมาแต่ไกล ไม่ใช่ใครที่ไหนไอ้แทยงเพื่อนรักสุดสวาทขาดใจของผมเอง
“ก็บอกว่าเดินได้!! เอามือออกไปเลย!!”
ผมว่าไอ้คู่นี้คงตีกันทุก10วิแหงๆ
พอเตนล์เห็นว่าพวกเรามองอยู่ก็หน้าแดงเทือก ส่วนไอ้แทยง เหอะๆหน้ามันโคตรจะมีความสุขนั่นทำให้รู้ว่าแฮบปี้!
เอ็นดิ้งขนาดไหน
“ปล่อยลงนะ อายคนอื่น” ยังไม่ทันที่เตนล์กับแทยงจะก้นแตะเก้าอี้
เสียงหนาวๆของแทอิลก็ดังมาก่อนตัว ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวอยู่ในอ้อมแขนของเพื่อนตัวโย่งที่ทำหน้าที่อุ้มคนรักลงมา
“คนอื่นที่ไหนเพื่อนกันทั้งนั้น” ดูมันๆ ไม่พูดเปล่ายังส่งยิ้มมาให้พวกเราที่นั่งอยู่ด้วย
ผมนี่สงสารแทอิลที่ไปรักคนเจ้าเล่ห์แบบมันจริงๆ
“มากินข้าวเถอะขอร้อง” ผมเป็นคนพูดสั่งเอง อยากจะกินๆแล้วไปให้พ้นๆอ่อร่าสีชมพูของพวกมันเต็มที
“เป็นไรวะ หน้าตาดูไม่สดใส”
แทยงเป็นคนที่ถามออกมาซึ่งแน่นอนว่าเรียกความสนใจได้จากคนทั้งโต๊ะ
“ไม่เสือกเนาะ” คำตอบของผมเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆได้เป็นอย่างดี
ชีวิตมันน่าน้อยใจ เมียไม่ให้เอาผมเศร้า “กินสักที หิว!”
“เดี๋ยวๆไม่รอมาร์คกับแจมินเหรอ?” เสียงใสๆของโดยองถามออกมา ทั้งผม แทยง ยองโฮและแจฮยอนมองหน้ากัน
และดูว่าใครจะเป็นคนบอกบรรดาเมียๆที่ทำหน้าเห็นด้วยกับโดยอง
“รอมันวันนี้คงไม่ได้กินข้าว” แจฮยอนเป็นคนพูดออกมาก่อนแล้วพยักพเยิดหน้ามาที่ผมเหมือนให้พูดต่อ
แม่งไม่พูดให้จบวะ
ตอนนี้กลายเป็นผมตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนทั้งคนที่รอฟังและคนที่กดดันให้พูด
“เฮ้อ~ ปล่อยให้มันได้พักผ่อนเหอะ
ส่วนข้าวค่อยให้คนเอาขึ้นไปให้ละกัน มาร์คน่าจะยังไม่หลับแต่แจมินคงเดินลงมาไม่ไหวหรอก
เพิ่งจะเงียบไปเมื่อสักพักนี้เอง” เท่านั้นล่ะครับเงียบกริบไม่มีใครพูด ถามหรือสงสัยเรื่องนี้อีกเลย
“อ่าว มาร์ค” เป็นเตนล์ที่เรียกชื่อของมาร์คที่กำลังเดินลงบันไดมาด้วยใบหน้าสดใสสุดๆ
อาจจะปลิ๊งกว่าพวกเราทุกคนเลยด้วยซ้ำ ซึ่งแน่นอนว่าไร้วี่แววของแจมิน
“ไงพี่ๆ
ป้าครับจัดอาหารให้ผมสองที่นะครับพอดีเจ้าตัวยุ่ง ลุกไม่ไหว” เอาจริงนะ ผมเกลียดการยักคิ้วหลิ่วตาของมันมาก หน้าถีบชิบหาย เอาเถอะมันชนะครับวันนี้
พวกผมยอมแพ้ แม่งเอ้ย!! “ถ้ารบกวนใครคงต้องขอโทษไว้ตรงนี้เลยนะครับ
พอดีเด็กมันดื้อ ผมเลยต้อง..ดุ”
ผมมองไปที่พีชายคนนอนซมอย่างไอ้แจฮยอน
ที่เงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมองไอ้คนพูดเน้นคำ
บอกเลยครับว่ามีพลังงานบางอย่างแล่นผ่านสายตามันทั้งสองก่อนที่แม่งจะยิ้มให้กันเหมือนต่างคนต่างเข้าใจกัน
แต่ขอโทษนะ กูไม่เข้าใจ!!
.
.
ในขณะที่ทุกคนด้านล่างกำลังมีความสุข แต่หารู้ไม่ว่าใครคนหนึ่งที่เพิ่งได้พักกำลังปวดเนื้อตัวจนแทบขยับไปไหนไม่ได้
“อ๊ะ..โอ้ย~ เจ็บ” แค่ขยับก็ปวดร้าว ไอ้พี่มาร์ค ไอ้แก่บ้ากาม ไอ้เฒ่าลามก!!!
ต้องเอาคืนให้ได้เลย!! ทำได้แค่โอดครวญอยู่ในห้องแบบนี้เพราะตอนนี้ไม่มีแรงพอจะทำอะไรได้ทั้งนั้น
แจมินคนนี้แค่ทำตามพี่ชายบอก แต่ทำไมการทำความดีกลับโดนทำร้ายร่างกายแบบนี้
อุตส่าห์หวังดีแท้ๆ ความจริงมันคงเป็นความสะใจส่วนตัวของไอ้พี่มาร์คชัดๆเลย!!!
อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอ หึ!
.
.
.
มาร์ครีบสาวเท้าเดินตามคนที่กำลังเดินกึ่งวิ่งข้างหน้า
เจ้าเด็กแสบกำลังหนีและแน่นอนว่าเขาไม่มีทางปล่อยให้คนทำผิดลอยนวล
เรื่องที่เจ้าตัวทำมันผิด ถึงจะทำตามที่พี่ชายบอกเจ้าตัวก็ควรจะเล่าทุกอย่างให้เขาฟังทั้งหมด
กึก!
“ผมไม่ได้ผิดสักหน่อย!”
พูดเสียงดังพร้อมกับแรงดันประตูที่เพิ่มขึ้น
เพราะต้องการจะปิดมันเพื่อหนีเอาตัวรอด
“นายผิด” ย้ำเสียงต่ำให้รู้ว่ากำลังโกรธไม่น้อย
และใช้แรงผลักประตูที่ดันยื้อกับอีกคนจนเจ้าเด็กดื้อที่ไม่ระวังเซล้มไปกับพื้นห้อง
คนพี่ก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับร่างบนพื้นที่กำลังขยับถดหนี
มือใหญ่ผลักประตูปิดลวกๆโดยไม่หันกลับไปมองด้วยซ้ำ
“พี่แจฮยอนสั่งให้ผมทำ ผมไม่ผิด!”
มาร์คถอนใจมองเด็กดื้อที่ยืนขึ้นเต็มความสูง ก่อนเชิดหน้าเพื่อเถียงเขา
“แล้วได้คิดไหมว่าถ้าเข้าไปไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น”
ริมฝีปากอิ่มเม้นเข้าหากัน แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวกำลังรู้สึกผิด
“ก็พี่แจ...”
“เลิกอ้างแจฮยอนได้แล้ว ทำไมถึงได้ทำอะไรไม่คิด
อย่างน้อยเราควรบอกพี่จะได้ช่วยกันห้าม ไม่ใช่สนับสนุนทั้งที่รู้ว่าพี่นายทำไม่ถูก”
ดวงตากลมตวัดมองราวกับกำลังโกรธ
“ผมคิดแล้ว! และที่สนับสนุนเพราะคิดว่ามันดีแล้วเข้าใจป่ะ!”
“คิดว่าดีแล้ว หรือคิดแค่ว่ามันน่าสนุก
รู้ไหมว่าการโดนยาไม่ใช่เรื่องสนุก การที่ต้องนอนกับคนที่ไม่ได้รัก
การถูกข่มขืนคิดว่ามันจะเป็นยังไงเคยคิดถึงผลที่จะตามมาบ้างรึเปล่า
หรือคิดแต่ว่าขอแค่ให้มันสนุก?”
“พี่มาร์ค!!” แจมินง้างมือเพื่อฉก แต่มาร์คเอี้ยวตัวหลบ
แขนแข็งแรงใช้จังหวะที่คนน้องวืดก้มลงช้อนเข้าที่เข่าเพื่อยกเจ้าเด็กดื้อพาดบ่าเดินมุ่งตรงไปที่เตียงกว้าง
“จะทำอะไร ปล่อย!!”
แจมินรู้สึกได้ว่าสถานการณ์มันเหมือนกับตอนที่มาร์คเคยทำเรื่องเลวร้ายกับตน
แต่ไม่ทำได้ดิ้นหนีร่างกลับถูกเหวี่ยงลงกับเตียง เล่นเอาโลกหมุนไปหมด
ข้อมือถูกตรึงในตอนที่สติยังไม่เข้าที่ดี
ร่างทั้งร่างของคนพี่กำลังนั่งคร่อมทับเอวเขาไว้
ในขณะที่ใบหน้าหล่อกำลังซุกไซร้ซอกคอ
“อย่านะ อึก..ม่ะ..ไม่เอา” มาร์คผละออกปล่อยข้อมือน้องให้เป็นอิสระ
แจมินทุบคนพี่ไม่ยั้ง
แน่นอนว่ามันเจ็บจนมาร์คต้องจับข้อมมือนั้นไว้แล้วตรึงไว้อีกครั้ง
ดวงตากลมเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสจ้องมองมา ปากอิ่มเม้นแน่น
“เด็กดื้อ” ว่าจบปากหนากดจุ๊บลงไปที่หน้าผากมนต์ “เด็กแสบ”
กดจุ๊บลงไปที่ปลายจมูกรั้นๆ “ชอบทำให้เป็นห่วง” ครั้งนี้หอมไปที่แก้มทั้งสองข้างจนคนโดนว่าต้องเอียงหน้าหนี
“ไม่ต้องมาทำแบบนี้เลยนะ ไม่รักแล้ว!”
เลิกคิ้วมองปากงุ้ยๆที่ขยับเอื้อเอ่ยคำพูดแสนจะไม่น่ารักออกมา
“ดีเหมือนกัน จะได้ไปรักคนที่ไม่ดื้อแล้วก็น่ารักกว่านี้”
ไม่ว่าเปล่ายังลุกออกจากตัวคนน้อง
หมอนใบใหญ่ฟาดเข้ามาเต็มหัวเล่นเอามึนจนเซ มาร์คหันมองคนทำ
ยังไม่ทันได้เอ่ยว่ากลับถูกสวมกอดเข้าเต็มแรง
ร่างโปร่งพลิกตัวแล้วโถมเข้าใส่จนเราทั้งคู่ล้มลงไปบนเตียง
จะต่างจากก่อนหน้านี้ตรงที่คนที่นั่งทับอยู่ด้านบนเป็นแจมิน
“ไม่ให้ไป!” ภายในใจของคนพี่เต้นตึกตัก “ห้ามไปรักคนอื่นนะ!” ไม่ใช่แค่เพราะแจมินกำลังอยู่ในท่าที่ล่อแหลม
แต่เพราะท่าทางน่ารักๆที่กำลังหึงหวงอยู่นี่ต่างหาก
“ไม่รักพี่แล้วนี่?” แม้ในใจจะลิงโลด
แต่เรื่องที่เจ้าตัวทำผิดจะให้มองข้ามก็คงไม่ได้
“อะไร ใครพูด พูดตอนไหนจำไม่เห็นได้เลย” ดูสิว่านา แจมินร้ายแค่ไหน
“เรารู้ว่าเราผิด เราขอโทษ เราจะไม่ทำแล้ว แต่พี่ห้ามเลิกรักเรานะ”
สายตาอ้อนๆมาพร้อมกับปากอิ่มที่กำลังเบะเหมือนจะร้องไห้ออกมาอีกรอบเมื่อคนพี่ยังคงนิ่งแถมยังเซมองไปทางอื่น
มือเรียวจับใบหน้าคนพี่ให้หันมองกัน
มาร์คแสร้งเลิกคิ้วมอง แต่สิ่งที่ไม่ได้คาดไว้ก็เกิดขึ้น
ปากอิ่มกดจูบลงมาที่ปากหนาพยายามดูดดึงเพื่อให้คนพี่ตอบรับแต่ไม่เลยมาร์คนิ่งมาก
คนน้องผละออกก่อนปลดเปลื้องอาภรณ์ด้านบนของตนทิ้ง
มาร์คกำลังอึ้ง
เขาไม่คิดว่าแจมินจะทำขนาดนี้แต่จะให้เอ่ยห้ามปรามเขาเองก็เลือกที่จะไม่ทำเช่นกัน
เพราะแบบนี้มันก็...ดี คนน้องโถมตัวใส่จนต้องประคองเอวคอดไว้
แขนเรียวค้ำกั้นไม่ให้คนพี่ได้หนี
ดวงตากลมมีหยาดน้ำเอ่อคลอ ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากัน
มาร์คยังคงมองใบหน้าของเด็กดื้อนิ่ง
แจมินก้มลงกดจูบทาบทับลงมาอีกครั้งและครั้งนี้น้องจงใจดูดแรงๆและงับปากล่างของคนพี่
“นาแจมิน กล้ากัดพี่เหรอ!!”
เด็กแสบยักคิ้วตอบมาร์คพลิกตัวขึ้นคร่อม
ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยที่แจมินไม่ทันได้ตั้งตัว และเขารู้ทันทีจากดวงตาวาวโรจน์แสนเจ้าเล่ห์ว่าตนโดนแกล้ง
แต่ไม่ทันได้ขัดขืนกลับถูดกดจูบและกัดเข้าในที่เดียวกัน
“โอ้ย!”
ทำได้แค่เปล่งเสียงร้องเพื่อให้คนทำรู้ว่าเขานั้นเจ็บ แต่คงทำได้เท่านั้นเพราะคนพี่ไม่ปล่อยให้เขาได้ขัดขืนหรือโต้เถียง
อาภรณ์ถูดปลดเปลื้องออกไปจากร่างกายถูกจับพลิกให้นอนคว่ำ
สะโพกโอนเอนไปตามการบังคับของอีกคนอย่างว่าง่าย
เพี๊ยะ!
“อ๊ะ!” มือใหญ่ฟาดก้นเด็กดื้อจนเป็นรอยแดง
ทั้งที่มันเจ็บแต่แจมินกลับรู้สึกว่ามันก็...เสียวดีเหมือนโดนทำโทษ
เอ๊ะหรือเขากำลังโดนทำโทษจริงๆนะ
“สำหรับที่บอกพี่ไม่หมด”
เพี๊ยะ!
“อันนี้ที่ดื้อ” มือใหญ่ฟาดก้นนิ่มไปอีกสองสามครั้งจนคนน้องน้ำตาเล็ด
พอจะหันไปบอกให้อีกคนพอสัมผัสแข็งร้อนกับกระทบเข้าที่ต้นขา
ร่างกายมันตอบรับสัมผัสนั้นอัตโนมัติด้วยการเบียดสะโพกเข้าหา
“ค่ะ..เข้า..อ๊าห์!”
ยังพูดไม่ทันจบคำแก่นกายร้อนที่พองเต็มที่ดุนดันเข้ามาจนต้องฟังใบหน้าไปกับหมอนมือเรียวกำจิกไปกับผืนที่นอนเพื่อระบายความเจ็บปวด
แก่นร้อนถูกตอดรัดจนขยับไปไหนไม่ได้
มาร์ครู้ว่าเขาควรช่วยน้องก่อนจึงไล้จูบไปตามแผ่นหลังเนียนขึ้นไปจนถึงลาดไหล่มนต์
แจมินเอียงมองสบตาคนใจร้ายโดยที่ไม่รู้เลยว่าดวงตาฉ่ำเพราะน้ำตา
แก้มนิ่มสีชมพูเรื่อ
ปากอิ่มที่เผยหอบหายใจที่มีหยาดน้ำใสไหลออกมาที่มุมปากนั่นมันโคตรจะเซ็กซี่
มาร์คพุ่งเข้าจูบปากนิ่มแทรกลิ้นร้อนจนคนน้องแทบตอบรับไม่ทัน
“อ๊ะ..ฮืมม” เสียงครางต่ำของคนพี่เกิดจากการที่แจมินขยับสะโพกหมุนคลึงจนแก่นที่อยู่ด้านในตัวร่างโปร่งอุ่นวาบความเสียวแล่นเข้าโสตประสาทจนต้องจับสะโพกซนๆนั้นไว้และเป็นฝ่ายขยับกระแทกเข้าออกแรงๆเพื่อให้เจ้าเด็กแสบได้รู้ว่าใครกันที่เป็นผู้นำ
เสียงครางคละเคล้าปนกันไปเสียงเนื้อผ้าเสียดสีของที่นอน เสียงการขยับของเตียง
ไหนจะเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่สะท้อนดังก้องในหัว
“อ๊ะ พ่ะ พี่มาร..มั๊ค อ๊าห์~~” คนน้องปล่อยออกมาจนเลอะที่นอน
จนคนพี่ต้องเร่งตัวเองเพราะใกล้ถึงแล้วเช่นกัน
“อื้มมม”
กระแทกอีกสองสามครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าทุกหยาดหยดได้ถูกปล่อยออกไป
ก่อนถอนแก่นกายออก
มุมปากหนายกยิ้มมองคนที่นอนหอบจนหลังกระเพื่อม
อะไรกันแค่นี้เหนื่อยแล้วอย่างนั้นหรือ มาร์คพลิกแจมินให้หันมาเผชิญหน้ากัน
คิ้วสวยเลิกมองแทนคำถาม
“อื้ม~ พี่มาร์คพอแล้ว” ทั้งที่ร้องห้ามแต่กลับเอียงหน้าเพื่อให้คนพี่ได้สูดดมความหอมจากซอกคอได้สะดวก
แขนเรียวยกเกี่ยวรอบคอและช่วงไหล่กว้างพร้อมกับขาที่แยกอ้ากว้างคล้องเอวหนาไว้
“พอแน่เหรอฮื้ม?” ถามก่อนฝังจมูกลงที่แก้มนิ่ม
“หรือพี่อยากพอ?” มาร์คยกยิ้ม ได้เลยแจมิน “อ๊ะ!”
แจมินโอบกอดคนพี่ไว้เพราะมาร์คพลิกตัวลงไปนอนกับเตียงแล้วเปลี่ยนตำแหน่งให้น้องนั้นอยู่ด้านบนแทน
“เอาสิทำหน่อย” คนฟังหน้าเหวอมองพี่ตาปริบๆ
ก่อนแจมินจะขยับตัวโดยใช้มือค้ำช่วงท้องแน่นๆของคนพี่ที่กำลังนอนหนุนแขนตัวเองมองมาที่ตน
มาร์คมองใบหน้าที่เริ่มเหยเกคงเพราะความเจ็บจากแก่นกายเขาที่อยู่ในตัว
ปากอิ่มกับเม้นกัดริมฝีปากล่างจนฟันกระต่ายโผล่ให้เห็นช่างหน้าหมั่นเขี้ยวเสียจริง
ไหนจะดวงตาฉ่ำๆที่ทอดมองมา แก้มแดงๆ รอยสีกุหลาบตามต้นคอและแผงอกนั่นยิ่งทำให้เจ้าตัวดูเซ็กซี่
มือใหญ่คว้าจับเอวคอดช่วยให้น้องขยับได้ง่ายขึ้น
ความเสียวซ่านแล่นริ้วจนต้องร้องครางเอาความอัดอั้นออกไป
และเจ้าเด็กขี้แกล้งก็ยังคงขี้แกล้งจนเขาเผลอสวนแก่นกลับไปหลายครั้ง
“อ๊ะ พ่ะ พี่...มะ อ๊าก~ อื๋อ งื้อๆ”
เสียงครางอื้ออึงในลำคอและปากบ่งบอกได้ดีว่าเจ้าเด็กแสบไม่กล้าขืนตัวหรือแกล้งเขาอีกเป็นแน่
เมื่อเห็นว่าแก่นกายน้องเริ่มดิ้นไม่เป็นสุขมาร์คจึงละมือหนึ่งมาเพื่อช่วยปรนเบลอ
เพียงแค่มืออุ่นที่ชุ่มเหงื่อสัมผัสร่างโปร่งขนลุกวาบ
แรงที่มีเหลือน้อยนิดแทบหมดลงทันทีจนมาร์คต้องพลิกตัวเป็นฝ่ายนำดังเดิม
แจมินดึงรั้งต้นคอคนพี่ลงมาเพื่อมอบจูบอันร้อนแรงนิ้วเรียวขยุมไปตามกลุ่มผมคนพี่และจิกมันเพื่อดึงออกเมื่อต้องการอากาศหายใจ
ก่อนซุกหน้าไปกับต้นคอหนาฝังเขี้ยวลงไปกับไหล่กว้าง
น้องเจ็บมาร์ครู้แต่ทำไงได้มันใกล้เสร็จเลยต้องเร่งจังหวะ
“อื้ม..พี่จะ..อ่าห์~”
มาร์คปล่อยเข้าไปในตัวน้องอีกครั้ง
ก่อนเอามืออุดช่วงหัวแก่นของน้องไม่ให้ได้ปล่อยออกมา
“ย่ะ..ผม..พี่มาร์ค อ๊ะ!”
มาร์คถอนแก่นกายออกเร็วแล้วปล่อยมือจากแก่นร้อยของแจมิน และไม่ทันได้ตั้งตัวร่างโปร่งถูกช้อนอุ้มจนต้องรีบวาดมือกับขาเกี่ยวรอบคอและเอวหนาไว้
“พี่จะพาผมไปไหน? อ๊ะ มันสี อื้ม~”
ยิ่งน้องบอกว่ามันสีคนพี่ก็ยิ่งรัดเอวน้องเขามา
แน่นอนว่าแจมินฟาดหลังพี่ไปเต็มแรงจนเป็นรอยมือ
มาร์คซี๊ดปากเพราะมันโดนแผลที่เจ้าตัวทั้งจิกทั้งข่วนเขาไว้
“เดี๋ยวๆจะออกไปข้างนอก?!”
“อือฮื้ม ที่ระเบียงไง ข้างในร้อน”
แจมินดันตัวมาเผชิญหน้าคนที่กำลังส่งยิ้มกลับมาให้ไหนจะยักคิ้วกวนๆส่งมาให้อีก
แล้วร้อนอะไรข้างในมีแอร์ ข้างนอกมีเพียงสายลมอ่อนๆในยามราตรีเท่านั้น
มาร์คหยุดเดินแล้วปล่อยให้แจมินยืนได้ไม่ถึงวิก็เบียดดันน้องไปจนติดราวระเบียง
ตอนนี้ใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ
ดวงตาโตมองไปรอบตัวเพราะกลัวว่าจะมีใครเปิดระเบียงออกมาเห็น
แล้วถ้ามีคนงานในบ้านพี่โดยองมาเดินด้านล่างแล้วเห็นเข้าเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“พี่มาร์คไม่เอา” พยายามดันคนที่เอาแต่ดูดเม้นซอกคอเขาอยู่ออก
มาร์คยอมผละออกโดยดี เขามองจ้องไปในดวงตาน้องและรู้ว่าอีกคนกำลังกลัว
แต่เหนือสิ่งอื่นใดร่างกายของเราที่เปลือยเปล่าท้าสายลมและแสงจันทร์มันช่าง
“แค่อย่าเสียงดังก็พอ”
“ไอ้บะ..อื้ม!!”
ไม่รอให้น้องได้คัดค้านอะไรมาร์คจัดการรวบเอวและรั้งต้นคอเด็กดื้อเข้ามาประกบจูบ
ใช้เวลาเล้าโลมเพียงไม่นานร่างโปร่งก็โอนอ่อนผ่อนตาม
เพลงรักใต้แสงจันทร์มันทั้งตื่นเต้นเร้าใจไม่น้อยเลยทีเดียว
“อ๊าห์ แจม..มิน”
“พ่ะ..พี่ แร..งอีก อ๊ะ อ่าห์!!”
แจมินรีบใช้มือปิดปากกลั้นเสียงครางเมื่อเห็นว่ามาคนกำลังเดินออกมาตรงสนามหญ้า
เป็นพี่วินวินกับพี่คุณแย่แล้วถ้าเขาร้องดังสองคนนั้นต้องได้ยินแน่ๆ
มาร์คปล่อยแขนข้างที่จับต้นขาเรียวก่อนพลิกตัวให้แจมินหันหลังให้ตน
“พี่จะ...”
“ชู่ววว์” เอานิ้วชี้ทาบปากตัวเองพรางเหลือบตาไปทางสองคนด้านล่าง
แจมินเมนปากแน่น “รีบทำจะได้เข้าไปไง”
มาร์คจับแก่นร้อนที่พองเต็มที่กลับเข้าไปจนแจมินต้องรีบหันไปเกาะราวระเบียงไว
มือใหญ่จับบังคับสะโพกมนต์ให้รับการกระทำรุนแรง
ปากอิ่มเม้นแน่นจนฮ่อเลือดเพื่อกลั้นเสียงร้อง น้ำตาใสรื้อเต็มหน่วยดวงตา
“อื้ม แจมิน”
เสียงทุ้มครางเคลาข้างใบหูไหนจะมือใหญ่ที่อ้อมมาปรนเปรอให้ อยากร้อนใจจะขาดสุดท้ายน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไหลลงอาบแก้ม
มือที่เคยจับเอวเปลี่ยนมาช้อนปลายคางน้องให้หันมารับจูบปลอบโยนพร้อมๆกับการกระแทกสองสามครั้งเพื่อปล่อยทุกอย่างออกมา
แน่นอนว่าแจมินเองก็เช่นกัน
น้ำอุ่นไหลย้อยลงต้นขาเรียวที่สั่นจนแทบยืนไม่ไหวมาร์คถอนแก่นกายช้อนอุ้มน้องเข้ามาในห้อง
เพียงแค่วางลงบนเตียงคนพี่กลับโดนฟาดไม่ยั้งจนต้องถอยหนี
“ตื่นเต้นดีออก”
แจมินมองหน้าคนที่ไม่ได้สำนึกเลยว่าคนโดนกระทำหน่ะทรมานแค่ไหน
“เงียบไปเลย!! มาเอาออกด้วยผมไม่มีแรงแล้ว!”
ปากบวมเจ่อแบะออกและด้วยความหมั่นเขี้ยวมาร์คจึงชิงจุ๊บลงไปก่อนผล่ะออกมายิ้มกว้าง
“ยิ้มอะไร?”
แจมินเริ่มรู้สึกถึงรางไม่ดี
ยิ่งสายตาที่มองมาดูก็รู้ว่ามาร์คกำลังคิดเรื่องลามกอีกนั่นยิ่งทำให้เขาอยากจะผลักอีกคนไปไกลๆ
“ไปเอาออกในห้องน้ำเนาะ” แม้รูปประโยคจะดูปรกติ
แต่หน้าตาและท่าทางกระตือรือร้นนั่นไม่ต้องเดาแจมินก็ได้คำตอบ
เมื่อมาร์ครวบช้อนตัวเขาอีกครั้งแล้วพุ่งตัวเข้ามาในห้องน้ำ
“พี่มาร์คพอ! อื้ม!”
ไม่สามารถปฏิเสธหรือหลีกหนีใดๆ
เพราะแรงที่จะขัดขืนนั้นหมดไปตั้งแต่ครั้งที่สองบนเตียงแล้ว
ที่ระเบียงนั่นเขาแค่ฝืน
ไม่รู้ว่าคนพี่ไปอดอยากมาจากไหนถึงที่ตะบี้ตะบันเอาขนาดนี้
น่าแปลกที่ร่างกายแจมินกลับตอบสนองมันทุกครั้งที่ถูกปลุกเร้าและใช่มันจบลงซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเขาหมดสติไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ให้ตายเถอะน่าอายจริงๆ
แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าตัวแสบนอนซมอยู่บนเตียง ในแบบที่แค่ขยับก็ต้องร้องโอดโอยลั่น
แก๊รก~
เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจให้ต้องเงยหน้าขึ้น กลิ่นหอมของข้าวต้มลอยมาแตะจมูกทำเอาน้ำย่อยในท้องตีรวนจนแสบไปหมด
มาร์คส่งยิ้มกว้างพร้อมเดินอ้อมมาข้างเตียงฝั่งที่น้องนอนอยู่
“หิวไหม?”
“หิว ไม่มีแรงด้วยป้อนเลย”
ไอ้ท่าทางช้อนตามองเบะปากใส่มันน่าหมั่นเขี้ยวจนอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจุ๊บปากอิ่มที่แดงช้ำนั่นจนคนโดนฉวยโอกาสต้องครางงื้อในลำคอพร้อมกับฟาดไหล่คนพี่ไปที
“พี่รักเรานะ” ใบหน้างอง้ำแดงซ่านไปจนถึงใบหูกับคำรักของพี่
ยิ่งสายตาหวานที่ส่งมาให้ทำเอาหัวใจเต้นแรงจนไม่กล้าที่จะสบดวงตาคู่นั้น
“ขนาดเขินยังน่ารัก”
“พอแล้ว” เบะปากใส่พร้อมเอามือปิดหน้า “เดี๋ยวเขินตายพอดี”
เสียงหัวเราะดังขึ้นก่อนมือใหญ่จะวางบนกลุ่มผมนิ่มแล้วลูบเบาๆ
ใบหน้าหล่อขยับเข้าไปใกล้พร้อมกับลมหายใจอุ่นๆ ที่กระทบกับกลุ่มผม
ตามมาด้วยริมฝีปากหนาทาบทับลงบนหน้าผากมนต์
มือเรียวเลื่อนตกลงมาเผยดวงหน้าแสนน่ารัก
เปลือกตาบางหลับพริ้มรับสัมผัสจากคนพี่ ร้อยยิ้มสวยวาดกว้างมันเต็มไปด้วยความสุข
สุขที่ออกมาจากหัวใจของเขา และของพี่มาร์ค
“ผมรักพี่มากกว่าอีก”
มาร์คยิ้มกว้างกับเด็กที่ไม่เคยยอมแพ้เขาเลยแม้แต่เรื่องเดียว
“ครับพี่รู้ ต่อไปนี้จะรักเราให้มากขึ้นๆ จนเท่ากับความรักที่เรามีให้พี่เลยดีมั้ย”
ความอ่อนโยนที่แจมินคนนี้โหยหา ความรักที่แจมินรอคอยมานาน
สิ่งที่ได้รับจากมาร์คกำลังเติมเต็มช่วงเวลาของเขาจนมันตื้นตันไปหมด “อ่าว
ร้องไห้ซะแล้วคนเก่ง”
“ฮึก..รัก..ผม..รัก ฮืออออ~~”
“ครับๆ พี่รู้แล้ว รักครับรัก พี่รักเรา
ห้ามไปไหนจากพี่แล้วนะพี่จองเราไว้แล้ว” มือใหญ่ประครองใบหน้าน่ารักแสนงอแง
ก่อนใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาใสด้วยรอยยิ้มแสนเอ็นดู “ไม่ร้องแล้วนะครับ”
“พี่มาร์ค”
“ครับ?”
“แต่งงานกันนะ”
“พี่ต้องเป็นคนขอรึเปล่า?” มาร์คยิ้มขำต่างกับเด็กน้อยที่เริ่มพองแก้ม
จนต้องฝังจมูกโด่งลงไป
“แล้วพี่จะแต่งไม่แต่ง” เด็กคนนี้มันเอาเรื่องจริงๆเลย
“แต่งครับแต่ง ให้พี่เรามาของด้วยนะ”
“ไม่มีปัญหา!” มันเป็นน่ารักจนอยากจะจับมาฟัดให้จมเตียง แต่ทำได้เพียง
โอบกอดเขาไว้ในอ้อมแขนให้สัมผัสสื่อถึงใจของกันว่ารักที่มีนั้นจะไม่จางหายไป
..............................
จิ้มน้องแจมแล้วกลับไปเม้นให้หน่อย
ขอกำลังใจหน่อย กดบัตรไม่ได้อย่างท้อ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น